ยา Statins และระบบทางทางเดินอาหาร

รศ.นพ.ศิษฏ์ ศิรมลพิวัฒน์

วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ และหน่วยโรคทางเดินอาหาร 

ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์

 

ยากลุ่ม statins เป็นยาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เนื่องจากมีฤทธิ์ลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือด และป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ อย่างไรก็ดีข้อมูลจากงานวิจัยแสดงให้เห็นว่ายากลุ่ม statins อาจมีบทบาทในการช่วยป้องกันหรือลดความรุนแรงของโรคระบบทางเดินอาหาร เช่น ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคตับ รวมถึงมะเร็งตับ และโรคตับอ่อนอักเสบได้ บทความนี้จะสรุปข้อมูลที่มีในปัจจุบันของประโยชน์และผลข้างเคียงของยากลุ่ม statins ต่อโรคระบบทางเดินอาหาร 

1. ยา statins กับโรคตับคั่งไขมัน (หรือโรคไขมันพอกตับ)

โรคตับคั่งไขมันเป็นโรคที่พบบ่อยในปัจจุบัน จากการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคอ้วน และโรคไขมันในเส้นเลือดสูงซึ่งทั้งสามภาวะนี้เป็นสาเหตุหลักของการเกิดการการสะสมของไขมันในตับ ผลจากการศึกษาพบว่ายากลุ่ม statins สามารถชะลอการดำเนินโรคในผู้ป่วยโรคตับคั่งไขมันได้ จากกลไกที่ยากลุ่ม statins ช่วยลดการอักเสบ ลดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ลดการสะสมของพังผืดในตับ และช่วยระบบไหลเวียนเลือดภายในตับ

ผลงานวิจัยจากประเทศสหรัฐอเมริกาโดยเป็นการศึกษาย้อนหลังโดยใช้ข้อมูลจากเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ในผู้ป่วยโรคตับคั่งไขมันจำนวน 1,238 รายและติดตามเป็นระยะเวลาเฉลี่ย 3.3 ปี โดย 47% ของผู้ป่วยทั้งหมดได้รับยา statins ผลการศึกษาพบว่าการได้รับยา statins สัมพันธ์กับการลดลงของการพัฒนาไปสู่การเกิดพังผืดตับระยะรุนแรงถึง 1.6 เท่า(1) 

อีกหนึ่งการศึกษาชนิดเก็บข้อมูลย้อนหลังในผู้ป่วยโรคตับคั่งไขมันจำนวน 7,988 รายจากหลายประเทศทั้งทวีปอเมริกา ยุโรปและเอเชีย โดย 40.5% ของผู้ป่วยได้รับการสั่งจ่ายยา statins พบว่าการได้รับยา statins สัมพันธ์กับการลดลงของอัตราการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุถึง 4.3 เท่า และลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงของตับลง 2.6 เท่า(2)

2. ยา statins กับโรคตับแข็ง 

ยา statins มีฤทธิ์ลดการสะสมของพังผืดในตับ ช่วยเพิ่มการสร้างไนตริกออกไซด์ในเยื่อบุหลอดเลือด ทำให้การไหลเวียนของเลือดภายในในตับดีขึ้น รวมทั้งมีงานวิจัยที่แสดงว่ายากลุ่ม statins สามารถช่วยลดความดันของระบบหลอดเลือดดำพอร์ทัลซึ่งเป็นเส้นเลือดดำใหญ่ที่วิ่งเข้าสู่ตับได้ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้เป็นกลไกสำคัญที่ส่งผลให้โรคตับแข็งลุกลามมากขึ้น ดังนั้นการศึกษาในปัจจุบันจึงพบว่ายากลุ่ม statins สามารถชะลอการดำเนินโรคของผู้ป่วยโรคตับแข็งได้  

ผลการศึกษาที่รวบรวมข้อมูลจาก 13 งานวิจัย รวมจำนวนผู้ป่วยที่มีโรคตับเรื้อรังทั้งหมด 121,058 ราย โดยส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีและ 46% ของผู้ป่วยได้รับยา statins พบว่าการได้รับยา statins ลดความเสี่ยงของภาวะตับทรุด (เช่น อาการท้องมานหรือดีซ่าน) และการเสียชีวิตลดลง 46% นอกจากนั้นการได้รับยา statins ในผู้ป่วยตับแข็งยังช่วยลดความเสี่ยงของภาวะเลือดออกจากเส้นเลือดขอดหลอดอาหารหรือการลุกลามของความดันพอร์ทัลสูงลง 27%(3) 

3.  ยา statins กับการป้องกันมะเร็งตับ

ผลจากงานวิจัยในปัจจุบันพบว่ายา statins มีส่วนช่วยในการป้องกันการเกิดโรคมะเร็งตับในผู้ป่วยที่มีโรคตับเรื้อรัง ผ่านทางกลไกการลดการอักเสบ ยังยั้งการสร้างหลอดเลือด และยังยั้งการเพิ่มจำนวนของเซลล์มะเร็ง

ผลการศึกษาที่รวบรวมข้อมูลจาก 13 งานวิจัย โดยทั้งหมดเป็นการศึกษาชนิดเชิงสังเกต (observational study) มีจำนวนผู้ป่วยทั้งหมด 1,742,260 ราย พบว่าผู้ป่วยโรคตับเรื้อรังที่ได้รับยา statins มีความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งตับลดลง43% โดยความเสี่ยงของภาวะกล้ามเนื้ออักเสบจากยา statins ไม่แตกต่างกันอย่างระหว่างผู้ใช้และผู้ไม่ใช้ยา(4)

4. ยา statins และโรคระบบทางเดินอาหารอื่นๆ

ผลจากการศึกษาเบื้องต้นพบว่าการได้รับยา statins อาจช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ 10-20% ผ่านกลไกการลดการอักเสบและกระตุ้นการทำลายเซลล์มะเร็ง(5) นอกจากนั้นการได้รับ statins อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคตับอ่อนอักเสบได้ 20-30% ผ่านกลไกการลดการอักเสบและควบคุมระดับไขมันในเลือด โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง (เช่น มีนิ่วในถุงน้ำดี หรือระดับไตรกลีเซอไรด์สูง)(6) อย่างไรก็ดีการศึกษาของ 2 ภาวะนี้ยังมีไม่มาก จำเป็นต้องรอผลจากงานวิจัยเพิ่มเติมเพื่อหาข้อสรุปที่ชัดเจน

ผลข้างเคียงของยา statins ต่อตับ

จากข้อมูลการศึกษาในปัจจุบันพบว่ายากลุ่ม statin เป็นยาที่มีความปลอดภัยสูงมาก โดยพบว่าเพียง 1-3% ของผู้ที่รับประทานยามีค่าเอนไซม์ตับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยมักเกิดขึ้นในช่วง 3-6 เดือนแรกหลังรับประทานยา และเอนไซม์ตับสามารถกลับมาเป็นปกติได้เองโดยไม่จำเป็นต้องหยุดยา สำหรับรายงานภาวะตับอักเสบรุนแรงจากยา statins นั้นมีน้อยมาก (น้อยกว่า 1 ใน 100,000 ราย) และส่วนใหญ่อาการดีขึ้นหลังจากหยุดยา โดยทั่วไปจึงแนะนำว่าไม่จำเป็นต้องตรวจติดตามค่าเอนไซม์ตับหลังจากการรับประทานยา statin ยกเว้นในกรณีที่มีอาการทางคลินิกที่สงสัย 

สำหรับการใช้ยา statin ในผู้ที่มีโรคตับอยู่เดิมที่มีข้อบ่งชี้  เช่น มีไขมันในเส้นเลือดสูงร่วมด้วยนั้น แนะนำว่าในกรณีมีโรคตับอักเสบเรื้อรังหรือโรคตับแข็งระยะเริ่มต้น สามารถใช้ยา statins ได้โดยอย่างปลอดภัย โดยอาจจะเริ่มยาในขนาดต่ำก่อน ในกรณีผู้ป่วยโรคตับแข็งระยะรุนแรงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยา statins หรือใช้ด้วยความระวังหรือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินอาหารและตับก่อน(7)

หมายเหตุ: ข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์ของยา statins ในการป้องกันและชะลอการดำเนินโรคระบบทางเดินอาหารนั้น ส่วนใหญ่เป็นผลที่ได้จากงานวิจัยที่มีคุณภาพระดับปานกลาง ดังนั้นในปัจจุบันจึงยังแนะนำให้ใช้ยา statins ในข้อบ่งชี้เพื่อการลดระดับของไขมันในเลือดหรือป้องกันการเกิดโรคหัวใจเท่านั้น และควรใช้ภายใต้การดูแลรักษาของแพทย์ จากหลักฐานทางการแพทย์ที่มีในขณะนี้ยังไม่แนะนำให้ใช้ยา statins เพื่อการรักษาและการชะลอการเกิดโรคทางเดินอาหารเพียงอย่างเดียวจนกว่าจะมีข้อมูลจากงานวิจัยเพิ่มเติม

 

เอกสารอ้างอิง

1. Schreiner AD, Zhang J, Petz CA, Moran WP, Koch DG, Marsden J, et al. Statin prescriptions and progression of advanced fibrosis risk in primary care patients with MASLD. BMJ Open Gastroenterol. 2024;11(1).

2. Zhou XD, Kim SU, Yip TC, Petta S, Nakajima A, Tsochatzis E, et al. Long-term liver-related outcomes and liver stiffness progression of statin usage in steatotic liver disease. Gut. 2024;73(11):1883-92.

3. Kim RG, Loomba R, Prokop LJ, Singh S. Statin Use and Risk of Cirrhosis and Related Complications in Patients With Chronic Liver Diseases: A Systematic Review and Meta-analysis. Clin Gastroenterol Hepatol. 2017;15(10):1521-30 e8.

4. Wong YJ, Qiu TY, Ng GK, Zheng Q, Teo EK. Efficacy and Safety of Statin for Hepatocellular Carcinoma Prevention Among Chronic Liver Disease Patients: A Systematic Review and Meta-analysis. J Clin Gastroenterol. 2021;55(7):615-23.

5. Liu Y, Tang W, Wang J, Xie L, Li T, He Y, et al. Association between statin use and colorectal cancer risk: a meta-analysis of 42 studies. Cancer Causes Control. 2014;25(2):237-49.

6. Preiss D, Tikkanen MJ, Welsh P, Ford I, Lovato LC, Elam MB, et al. Lipid-modifying therapies and risk of pancreatitis: a meta-analysis. JAMA. 2012;308(8):804-11.

7. Averbukh LD, Turshudzhyan A, Wu DC, Wu GY. Statin-induced Liver Injury Patterns: A Clinical Review. J Clin Transl Hepatol. 2022;10(3):543-52.