GAT KNOWLEDGE
ผลของการดื่มแอลกอฮอล์ต่อระบบทางเดินอาหาร

อ.นพ.ธนาวิน แซ่ว่อง
หน่วยโรคระบบทางเดินอาหารและตับ ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ปัจจุบันคนไทยดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากสถิติพบว่ามีผู้ดื่มแอลกอฮอล์มากถึง 15.9 ล้านคน ในประเทศไทย แอลกอฮอล์เป็นสาเหตุที่สำคัญของโรคหลายระบบรวมถึงโรคระบบทางเดินอาหาร นอกจากนี้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังพบมะเร็งตับที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้นอีกด้วย 1,2
ประเภทของแอลกอฮอล์มี 2 ชนิด
- Ethyl alcohol ใช้สำหรับเป็นเครื่องดื่ม เช่น เบียร์, ไวน์ และวิสกี้
- Methyl alcohol ใช้จุดไฟหรือผสมสี แอลกอฮอล์ประเภทนี้ใช้ดื่มไม่ได้ เป็นอันตรายต่อร่างกายอย่างมาก แต่บางครั้งพบว่าอาจนำมาลักลอบทำเหล้าเถื่อนได้
เครื่องดื่มแต่ละชนิดมีปริมาณแอลกอฮอล์ในระดับที่แตกต่างกัน
- เบียร์ 4-6%
- ไวน์ 12-14%
- วิสกี้ 35-40%
คำว่า 1 ดื่ม มาตรฐาน (standard drink) หมายถึงอะไร
- ปริมาณของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีแอลกอฮอล์บริสุทธิ์อยู่ 8-14 กรัม มีความแตกต่างกันในแต่ละประเทศโดยปริมาณ 1 ดื่มมาตรฐานของประเทศไทยจัดอยู่ที่ 10 กรัม
- 1 ดื่มมาตรฐานของเครื่องดื่มแต่ละชนิดจะไม่เท่ากัน กล่าวคือ เครื่องดื่มชนิดที่มีปริมาณความเข้มข้นของแอลกอฮอล์มาก 1 ดื่มมาตรฐานก็จะน้อย ดังรูป
รูปที่ 1 ขนาดมาตรฐานของเครื่องดื่มแต่ละชนิด
ผลของการดื่มแอลกอฮอล์ต่อระบบทางเดินอาหาร
1. ผลต่อตับ
จากข้อมูลการศึกษาจนถึงปัจจุบันพบว่าการที่ผู้ชายดื่มแอลกอฮอล์มากกว่า 3 ดื่มมาตรฐาน (ได้รับแอลกอฮอล์มากกว่า 30 กรัม/วัน) หรือมากกว่า 21 ดื่มมาตรฐาน/สัปดาห์ และผู้หญิงที่ดื่มแอลกอฮอล์มากกว่า 2 ดื่มมาตรฐาน (ได้รับแอลกอฮอล์มากกว่า 20 กรัม/วัน) หรือมากกว่า 14 ดื่มมาตรฐาน/สัปดาห์ เป็นเวลานานมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคตับ โดยเฉพาะหากดื่มแบบ “Binge” คือ การดื่มแบบหนักหน่วงในช่วงเวลาสั้นๆ คือ ผู้ชายที่ดื่มแอลกอฮอล์มากกว่า 5 ดื่มมาตรฐาน หรือ ผู้หญิงที่ดื่มแอลกอฮอล์มากกว่า 4 ดื่มมาตรฐาน ในช่วงประมาณ 2 ชั่วโมง ทำให้ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสูงอย่างรวดเร็ว จะส่งผลต่อระบบต่าง ๆ เช่น สมอง ความจำ สติ ความดันโลหิต หัวใจ เสี่ยงต่ออุบัติเหตุและอาชญากรรมต่าง ๆ และยังทำให้เสี่ยงต่อการเกิดตับอักเสบเฉียบพลัน และตับวาย ซึ่งเป็นภาวะที่มีอัตราการเสียชีวิตสูง
ตับเป็นอวัยวะที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากเป็นอวัยวะหลักที่กำจัดแอลกอฮอล์ ดังนั้นการดื่มแอลกอฮอล์สามารถทำให้ตับได้รับความเสียหายตั้งแต่ตับอักเสบเพียงน้อย เกิดไขมันพอกตับ ตับแข็งระยะไม่มีอาการ ตับแข็งระยะมีอาการไปจนถึงมะเร็งตับในที่สุด 3,4 โดยกระบวนการตั้งแต่เกิดตับอักเสบจนกระทั่งเกิดตับแข็งนั้นใช้เวลานานขึ้นกับปริมาณที่ดื่มดังรูป
รูปที่ 2 การเกิดตับแข็งและมะเร็งตับ
2. ผลต่อตับอ่อน
นอกจากตับแล้ว อวัยวะที่ได้รับความเสียหายจากการดื่มแอลกอฮอล์นั้นคือ ตับอ่อน การดื่มแอลกอฮอล์นั้นสามารถทำให้เกิดโรคตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน และตับอ่อนอักเสบเรื้อรังได้
- ตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน แอลกอฮอล์เป็นสาเหตุของตับอ่อนอักเสบเฉียบพลันถึงร้อยละ 45 โดยจะเกิดในผู้ป่วยที่ดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมากติดต่อกันหลายวัน อาการที่สำคัญคือ ปวดท้องบริเวณลิ้นปี่หรือช่องท้องส่วนบนร้าวทะลุหลัง ปวดรุนแรง มีคลื่นไส้อาเจียน ผู้ป่วยบางรายอาการอาการหนักมีอวัยวะหลายระบบล้มเหลวทำให้มีอัตราเสียชีวิตได้ถึงร้อยละ 5 5
- ตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง การเกิดตับอ่อนอักเสบเรื้อรังขึ้นกับปริมาณและระยะเวลาของการดื่มแอลกอฮอล์ โดยความเสี่ยงในการเกิดตับอ่อนอักเสบเรื้อรังจะเพิ่มมากขึ้น เมื่อดื่มแอลกอฮอล์มากกว่า 4-5 ดื่มต่อวัน เป็นเวลาอย่างน้อยนานกว่า 5 ถึง 10 ปี โดยอาการของตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง จะมีอาการปวดท้องบริเวณลิ้นปี่ อ่อนเพลีย น้ำหนักลด ขาดสารอาหาร และเป็นเบาหวานได้ 6,7
- มะเร็งตับอ่อน ซึ่งเป็นมะเร็งที่ร้ายแรงและมีอัตราการเสียชีวิตสูง
3. ผลต่อระบบทางเดินอาหารส่วนอื่นๆ
- กระเพาะอาหารอักเสบ เกิดจากการอักเสบของเยื่อบุกระเพาะอาหารจากแอลกอฮอล์ ทำให้มีอาการปวดแสบท้อง คลื่นไส้อาเจียน
- หลอดอาหารอักเสบ มีอาการคล้ายกรดไหลย้อน เนื่องจากแอลกอฮอล์ทำให้หูรูดหลอดอาหารหย่อนกว่าปกติ เกิดกรดไหลย้อนได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้อาจทำให้เกิดหลอดอาหารฉีกขาดทำให้มีอาการอาเจียนเป็นเลือดสดได้
4. นอกจากนั้นแอลกอฮอล์เพิ่มความเสี่ยงการเกิดมะเร็งหลายชนิด
นอกจากการดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้มีความเสียหายต่อระบบทางเดินอาหารที่กล่าวมาแล้วนั้น ยังมีการศึกษาพบว่าการดื่มแอลกอฮอล์จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งหลายชนิดดังต่อไปนี้ 8
- มะเร็งเต้านม
- มะเร็งตับ
- มะเร็งลำไส้ใหญ่
- มะเร็งหลอดอาหาร
- มะเร็งในช่องปากและกล่องเสียง
- มะเร็งโพรงจมูก
เอกสารอ้างอิง
- สำนักงานสถิติแห่งชาติ. การสำรวจพฤติกรรมการดื่มสุราของประชากร ปี 2564
- Danpanichkul P, Suparan K, Sukphutanan B, et al. Changes in the epidemiological trends of primary liver cancer in the Asia–Pacific region. Scientific Reports. 2024 Aug 22;14(1):19544.
- Thursz M, Gual A, Lackner C, Mathurin P, Moreno C, Spahr L, et al. EASL Clinical Practice Guidelines: management of alcohol-related liver disease. J Hepatol. 2018;69(1):154-81
- Crabb DW, Im GY, Szabo G, Mellinger JL, Lucey MR. Diagnosis and treatment of alcohol-associated liver diseases: 2019 practice guidance from the American Association for the Study of Liver Diseases. Hepatology. 2020;71(1):306-33.
- Working Group IAP/APA Acute Pancreatitis Guidelines. IAP/APA evidence-based guidelines for the management of acute pancreatitis. Pancreatology. 2013;13(4):e1-5.
- Apte MV, Wilson JS, Korsten MA. Alcohol-related pancreatic damage: mechanisms and treatment. Alcohol Health Res World. 1997;21(1):13-20.
- DiMagno MJ. Oktoberfest binge drinking and acute pancreatitis: is there really no relationship?. Clinical Gastroenterology and Hepatology. 2011 Nov 1;9(11):920-2.
- Danpanichkul P, Ng CH, Tan DJH, Wijarnpreecha K, Huang DQ, Noureddin M, Young Alcohol Disease Collaborative. The global burden of alcohol-associated cirrhosis and cancer in young and middle-aged adults. Clin Gastroenterol Hepatol. 2024